วันเสาร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

!!!!!ควรฟิตได้แล้ว!!!!!(ปิดแล้วกลับไปอ่านหนังสือซะ)

(คำเตือน : บทความนี้เป็นคำบ่นไร้สาระของคนแก่ๆคนนึง อย่าได้ถือสาหรือใส่ใจมันให้มากไปนัก)

หลังจากที่ได้รู้คะแนน เกท เพค(พูดแบบอุ๊) ที่รอคอยอย่างใจจดใจจ่อกันแล้ว ป้าก็เริ่มเห็นหายนะที่ใกล้เค้ามาค่ะ

บางคนบอกว่า"ครั้งแรก ซีเรียสอะไร ยังมีครั้ง 2 ,3 อีก" ป้าไม่อยากจะตะโกนกลับไปหรอกนะคะ ว่าครั้งสองมันอีกไม่ถึงสองเดือนแล้ว ก็นะ..เฮ้ออออ

เมื่อกี้เข้าไปบอร์ดมหิดล(วิทยานุสรณ์)มา (ประหลาดเนอะป้าเข้ามาตลอดจะสามปีแล้ว) ทุกคนลองเข้าไปดูนะคะ ป้าอาจคิดมากไป แต่ดูแล้วหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก(ฟิสิกส์โดนกินไปแล้ว ทุบสถิติ ทำลายสถิติ แหม) .... ป้าไม่ใช่คนประเภทโรงเรียนนิยม(ทำนองเดียวกับชาตินิยม)มากมายหรอกนะคะ เพียงแต่มีความรู้สึกภาคภูมิใจ อยากให้รร.เราโดดเด่นต่อไป เหอๆ

ก็เข้าใจอยู่ว่าทะเลาะกันไปก็ไม่มีประโยชน์ น่าจะมาช่วยกันพัฒนาประเทศ แต่...ป้ายังพูดกระแนะกระแหนกับเพื่อนที่อยู่รร.นี้อยู่เลยค่ะ(มันเริ่มก่อน ช่วยไม่ได้ที่ป้าจะไฟต์กลับ) อ.คมขำ อ.ที่สอนสังคมในชั้นม.หกใช้เวลาในคาบแรกในการปลุกระดมค่ะ คนอื่น(ในห้อง)อาจจะหัวเราะเฮฮา แต่ป้าแล้วเกิดสิ่งที่เรียกว่า กระเหี้ยนกระหือรือ ที่จะ แข่งขัน ค่ะ

ป้าว่าการแข่งขันนี้พอเอาเข้าจริงถึงมันจะเหมือนเราจะไปแข่งเปรียบกับคนอื่น รร.อื่น(นังเพื่อนคนนั้น) แต่จริงๆแล้วมันก็คือการแข่งกับตัวเองนั่นแหละค่ะ แข่งที่จะควบคุมจิตใจ หัวใจ(ผู้ชายในห้องปีนี้หล่อ-----เกี่ยวตรงไหนเนี่ย) ทำอย่างไรให้สิ่งที่มุ่งหมายประสบความสำเร็จ เวลาตอนนี้เหลืออีกไม่มากแล้วนะคะ(จริงจัง)ป้าอยากให้ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม --- รวมทั้งตัวชั้นด้วย - -*

แต่เท่าที่สุ่มถามตอนนี้ ดูเหมือนทุกคนจะมีทางเดินชีวิตในภายภาคหน้ากันหมดแล้ว บางคนก็อาจจะโวยวายว่ายังตัดสินใจไม่ได้ เรือนรางอยู่ แต่ป้าเชื่อค่ะ ว่า จริงๆแล้วคนๆนั้นมีทางเลือก แผน ที่วางไว้ในใจแล้ว เพียงแต่ยังไม่ได้แน่ใจกับตัวเองนัก ไม่เป็นไรค่ะ ทำคะแนนดีๆไว้จะได้เข้าได้หมด

เวลาอาจารย์เข้าห้องทีไร หรือพี่(ห้อง 58) เข้ามาคุยกับน้องที่ไร ก็มักจะถามเสมอว่าจะเรียนอะไร พอบอกหมอเกือบทั้งห้องต่างยกมือกันหมด ซื่งป้าก็ยกตามเค้าไปด้วย (ความจริงไม่ได้อยากเป็นหมอ คนที่เคยคุยกับป้าจะรู้ค่ะว่าป้าอยากได้..อะไร แต่ไม่อยากแสดงความจำนง..เอิ่ม..มันดูเว่อร์ไป) แล้วพี่ที่มาก็มีแต่หมอ(อ.บอก 38 คน - -* จากห้องนี้) มองไปทางไหนก็มีแต่หมอ ถามใครก็เอาแต่หมอ เฮ้อออ ต่อไปในอนาคตคงมีแต่เพื่อนเป็นหมอล่ะค่ะ(ถ้าพวกเธอสอบได้กันนะ โฮะๆๆๆ)

ความจริงเป็นหมอก็ดีนะคะ ไม่ใช่ว่าไม่ดี งานก็มั่นคง(หลายคนเลือกเพราะสิ่งนี้) เงินก็ดีในระดับหนึ่ง(ถ้าขยันทำคลินิก หรือรพ.เอกชนเงินจะดีมาก) แต่....จากประสบการณ์ที่ป้ามีลุงเป็นหมอ ที่มักกลับมาเล่าให้ฟังเสมอ(เพื่อไซโคไม่ให้ป้าอยากเป็น -*- ขอบคุณจากใจค่ะ - -*) คือลุงเป็นหมอยูโร---ระบบปัสสาวะชาย 0.0 ลุงบอกว่าวันๆอยู่แต่กับ... เด๋วขลิบ เด๋วทำหมัน เด๋วต่อหมัน เด๋วรักษาการแข็งตัว เอิ่ม.. - -* ลุงบอกน่าเบื่อมากเลยค่ะ(จริงหรอ) ทำงานอย่างกับกรรมกร ...จากการถูกไซโคเช่นนี้ ป้าเลย..มีความรู้สึก เฉยๆกับหมอค่ะ (แม้ว่าจะได้อยู่กับ...ทั้งวัน อึ๋ยยย)

ป้ามานั่งคิดว่าถ้าไปได้สิ่งที่ป้าอยากได้จริงๆ ป้าจะไปได้หรอ? ป้าคงเหงาน่าดูเชียวล่ะค่ะ ขนาดแค่อยู่กทม.ยังคิดถึงพ่อแม่มากมาย (ช่วงนี้โทรคุยวันนึงมากกว่าสองครั้ง) พ่อแม่ป้าก็วันๆไซโคแต่ให้เป็นหมอ ระบุชัดเจนเลยนะคะ ว่าต้องมช.(ใกล้บ้าน) ป้าก็เออออห่อหมกไปค่ะ ถ้าพ่อแม่รู้ความตั้งใจป้าว่าจะโกอินเตอร์ เหอๆๆ สงสัยบ้านแตก (ตอนนี้เหมือนพ่อแม่มีลางสังหรณ์ พร่ำบอกว่ามีอะไรให้บอกกันก่อนนะ - -*)

มีอยู่คำพูดนึงของอ.คมขำ ที่เหมือนกับอ.เมธีเปี๊ยบเลยค่ะ(ป้ายังจำได้) อ.ทั้งสองบอกให้เราในรร.ให้แข่งกันเอง...เพื่ออะไรค่ะ? ....เพื่อที่ว่าเราจะได้เข้มแข็ง และแข็งแกร่งไงค่ะ ทั้งตัวเรา และรร.ของเราเอง อ.บอกว่าหากเราแข่งกันเอง โดยอยู่ในความพอดี(ไม่แข่งแบบตายกันไปข้าง) ก็จะไม่มีไครมาชนะเราได้ รวมทั้งตัวเราที่จะประสบความสำเร็จเป็นผลพลอยได้ไปอีกด้วย อ.คมขำบอกว่ามาสอนสังคมห้อง 58 จะให้เองควีนไปถล่มห้องคิงค่ะ 555+++ เพราะฉะนั้นระวังไว้ให้ดีล่ะค่ะหลานเบน 555+

ป.ล. อยากรู้คะแนนแกทหลานเบน โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ

ป.ล.ล. กุ๊ก ป้าลืมโทรบอก ป้าได้กระเป๋าคืนแล้วเด้อ(จากห้องสมุด) รู้ป่ะใครเอาไป? ...แก้ว เอาไป - -* เกือบด่าเปิงแล้วมั้ยล่ะ (กระเป๋ามีคนหยิบผิดที่ห้องสมุดค่ะ)

ป.ล.ล.ล. หวังว่าวันจันทร์นี้ฝนจะหยุด เริ่มเบื่อบรรยากาศที่โรแมนติกแล้ว (แม้ไม่มีใครกางร่มให้ก็ตาม)

ป.ล.ล.ล.ล. เอ่อออ จะเข้าชมรมไรกันอ่ะ (ป้ากะฟันชมรมบำเพ็ญฯค่ะ)

ป.ล.ล.ล.ล.ล. ยังไม่ได้เริ่มเทคบัดดี้เลยค่ะ (โชคดีได้ผู้ญ. ถ้าได้ช.คง เหอๆๆๆ)

ป.ล.ล.ล.ล.ล.ล. อยากกินข้าวกล้องที่โรงอาหารค่ะ

โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยย ชั้นมาพิมพ์อะไรไร้สาระเนี่ย ไปอ่านหนังสืออออออออออออ ปิดคอมด้วยความรีบเร่ง----แล้วดูแจ๋วใจร้ายต่อ - -*

วันจันทร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2551

เมื่อป้า..เป็น่โรคจิต(อ่อนๆมั้ง?)

รู้มั้ย? ตอนนี้ป้าร้อนรุ่มกลุ้มใจมากกกกกกกแค่ไหน การใช้ชีวิตประจำวันก็เริ่มเปลี่ยน ป้าขอโทษ.. ป้าไม่น่าข้องแวะกับสิ่งพรรค์นั้นเลย มันเกิดจากความผิดพลาด.... ป้าเลือกเดินเส้นทางชีวิตที่ผิดพลาดไป มันไม่มีทางหวนกลับมาแล้ว ... หุ่นช้านนนนนนนนนนนนนนน

ที่ป้าร้องห่มร้องไห้ด้วยความเศร้าเสียใจเยี่ยงนี้ ไม่ได้ว่าท้องไม่มีพ่อนะคะ(เอิ่ม ขอเล่าแทรก กลับบ้านมาพบว่านังลูกหมี หมาบางแก้วที่บ้าน มันท้องไม่มีพ่อ ต๊ายยยย..ของเขาแรงจริง) หลายคนรู้อยู่ว่าตอนนี้กำลังเกิดอะไรขึ้นกับป้า ป้า.. ป้า... ป้า... ผอมลงค่ะ(ยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบาน) บางคนก็ว่าผอมไป บางคนก็ว่าสมส่วน บางคนก็ว่าฟันเหยิน(ขอถามว่าเกี่ยวตรงไหน?) แต่ป้าจะเล่าเบื้องหลังให้ฟังค่ะ การผอมลงนี้ มันเป็นมาอย่างไร และที่สำคัญผลกระทบที่เกิดกับป้าในปัจจุบัน(ใหญ่หลวงนักค่ะ)

...เรื่องมีอยู่ว่า...(อย่างย่อๆ)

-------ปิดเทอมใหญ่ม.สี่------

ครึ้มอก ครึ้มใจอยากออกกำลังกาย และตอนเย็นกินน้อยลง (ขออนุญาตไม่บอกแรงบันดาลใจ..ส่วนตัวมั่กๆ)

เปิดเทอม ...เริ่มผอมลง ลดไป หกกิโลฯ

-------กิจกรรมรับน้อง.. เหนื่อยมาก กินน้อยกลับดึก ลดไป สามกิโลฯ(ในเวลาอาทิตย์กว่า)

เทอมหนึ่งม.ห้า จนถึงซัมเทอมหนึ่ง ลดลงไปอีกมากมาย

โอ๊ยยยย ขี้เกียจสาธยาย สรุปว่า ปัจจุบัน 62 กิโลฯ (ค่อนข้างพอใจ)

--------------------------------------------------------------

ที่นี้จะบอกให้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นจากการลดนน.ครั้งนี้ ป้าบอกได้เลยว่าผู้คนใกล้ตัวจะสังเกตได้ชัด(ลองถามหลานกุ๊กได้..เพราะหลานกุ๊กก็เริ่มเป็น 55) ที่นี้อาการที่กำลังเกิดกับป้า ป้าเรียกได้ว่ามันเป็น โรคจิต อ่อนๆได้เลยล่ะค่ะ ไอ้การลดนน.เนี่ยป้ากินน้อยมาก ถ้าหลายคนเห็นจะตกใจ ที่นี้ตอนน้ำหนัก 65 กก.ป้าตั้งใจจะพอแล้ว แต่มันกลับลดลงไปเรื่อยๆค่ะ อันเนื่องมาจากพฤติกรรมการกินของป้าที่ไม่เปลี่ยนไป แถมยังมีอาการทำนองว่า พอกินแล้วไม่ว่าอะไรก็ตาม จะน้อยจะมาก จะต้องบ่นให้ใครที่อยู่ในที่นั้นฟัง ไม่ว่าจะเป็น "โอ๊ยยย กินมากเลยวันนี้ , อ้วนแน่ๆอ่ะ" จนหลายๆคนเริ่มรำคาญ ต่อมาป้าก็เริ่มเกิดอาการสะใจค่ะ เวลาเห็นคนอื่นกินเยอะๆ(อันนี้น่ากัว) เวลาเห็นป้ากินเยอะๆจะรุ้สึกดีใจ แบบ เห้ยยย ป้าก็กินตั้งเยอะ..อ้วนแน่ๆ 55(โรคจิตไปแล้ว) หรือเวลากุ๊กบอกว่าแม่ทำเค้กให้กิน ก็จะแบบสะใจ ฮ่าๆๆ เด๋วมันต้องอ้วนแน่(แม้ปัจจุบันจะอ้วนแล้วก็ตาม 55) แล้วป้าก็กินน้อยลงๆๆๆ และก่อนกินจะคำนวนแคลอรี่อาหารก่อนกิน จำได้หมดค่ะอันนี้กี่แคล อันนี้วันนึงควรกินเท่าไร ...

....พระเจ้า....

ตอนนี้ป้าอยากจะบ้าตายค่ะ... กลับบ้านมาปีใหม่ มีแต่คนทักว่าผอม ผอมมาก ผอมเกินไป หัวโต ฟันเหยิน(อีกแล้ว เกี่ยวตรงไหน) ชิชะ... ป้าก็เริ่มใจไม่ดี เกิดความหวั่นไหวในหัวใจ แล้วที่นี้พ่อ แม่ และครอบครัวก็บังคับให้ป้ากิน ...

อร้ายยยยยยยยย..... ขอเน้นว่าบังคับ


กินตลอดเวลา อร้ายยยยยยยยยยย..........


กินในของที่น่ากัว.อร้ายยยยยยยย.....

ไอศกรีมเอย โมจิเอย แยมโรล หนมปังสังขยา

น่ากัวที่สุด...

.....รู้มั้ยค่ะความโรคจิตของป้า พอมีเวลาเข้าห้องน้ำ(ยังไม่ล้วงคออ้วกค่ะ ยังไม่ขนาดนั้น) ป้ารีบกระโดดตบ ฮ่าๆๆ วิดพื้นกับผนัง พยายามเบิร์นแคลอรี่ให้มากที่สุด ก่อนนอนป้าพยายามซิทอัพ ...โอ๊ยยย อยากจะบ้าตาย

ก่อนนอนก็คิดมาก

วันนี้กินไปกี่แคลอรี่ ......

พอพ่อแม่เผลอรีบตั้งข้าวให้น้อง...........

ป้าอยากจะบ้าตาย....ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว.....

หลานนิวบอกให้ป้าอัพซะบ้าง

ป้าอัพแล้วค่ะ ระบายแล้ว

...สบายใจในอารมณ์............ (จบเอาซะดื้อๆ)




ปล. หลานๆอย่าพึ่งตกใจไป ตอนนี้ป้าทำใจได้แล้วค่ะ กินข้าวตามปกติ (พ่อแม่ให้สติได้ ว่ามันลดเกินไป) ตอนนี้ป้ากินเลี้ยงปีใหม่ทุกวัน ไม่กลัวอ้วนแล้ว(หลานกุ๊ก ป้าหายจากโรคจิตแล้วเด้ออออ)

แต่................

ระวังนะคะ.................มันจะมาโดยไม่รู้ตัว อร้ายยยยยยยยยยยยย
(สนับสนุนโดยเนเจอร์กิฟ)