วันจันทร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2551

เมื่อป้า..เป็น่โรคจิต(อ่อนๆมั้ง?)

รู้มั้ย? ตอนนี้ป้าร้อนรุ่มกลุ้มใจมากกกกกกกแค่ไหน การใช้ชีวิตประจำวันก็เริ่มเปลี่ยน ป้าขอโทษ.. ป้าไม่น่าข้องแวะกับสิ่งพรรค์นั้นเลย มันเกิดจากความผิดพลาด.... ป้าเลือกเดินเส้นทางชีวิตที่ผิดพลาดไป มันไม่มีทางหวนกลับมาแล้ว ... หุ่นช้านนนนนนนนนนนนนนน

ที่ป้าร้องห่มร้องไห้ด้วยความเศร้าเสียใจเยี่ยงนี้ ไม่ได้ว่าท้องไม่มีพ่อนะคะ(เอิ่ม ขอเล่าแทรก กลับบ้านมาพบว่านังลูกหมี หมาบางแก้วที่บ้าน มันท้องไม่มีพ่อ ต๊ายยยย..ของเขาแรงจริง) หลายคนรู้อยู่ว่าตอนนี้กำลังเกิดอะไรขึ้นกับป้า ป้า.. ป้า... ป้า... ผอมลงค่ะ(ยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบาน) บางคนก็ว่าผอมไป บางคนก็ว่าสมส่วน บางคนก็ว่าฟันเหยิน(ขอถามว่าเกี่ยวตรงไหน?) แต่ป้าจะเล่าเบื้องหลังให้ฟังค่ะ การผอมลงนี้ มันเป็นมาอย่างไร และที่สำคัญผลกระทบที่เกิดกับป้าในปัจจุบัน(ใหญ่หลวงนักค่ะ)

...เรื่องมีอยู่ว่า...(อย่างย่อๆ)

-------ปิดเทอมใหญ่ม.สี่------

ครึ้มอก ครึ้มใจอยากออกกำลังกาย และตอนเย็นกินน้อยลง (ขออนุญาตไม่บอกแรงบันดาลใจ..ส่วนตัวมั่กๆ)

เปิดเทอม ...เริ่มผอมลง ลดไป หกกิโลฯ

-------กิจกรรมรับน้อง.. เหนื่อยมาก กินน้อยกลับดึก ลดไป สามกิโลฯ(ในเวลาอาทิตย์กว่า)

เทอมหนึ่งม.ห้า จนถึงซัมเทอมหนึ่ง ลดลงไปอีกมากมาย

โอ๊ยยยย ขี้เกียจสาธยาย สรุปว่า ปัจจุบัน 62 กิโลฯ (ค่อนข้างพอใจ)

--------------------------------------------------------------

ที่นี้จะบอกให้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นจากการลดนน.ครั้งนี้ ป้าบอกได้เลยว่าผู้คนใกล้ตัวจะสังเกตได้ชัด(ลองถามหลานกุ๊กได้..เพราะหลานกุ๊กก็เริ่มเป็น 55) ที่นี้อาการที่กำลังเกิดกับป้า ป้าเรียกได้ว่ามันเป็น โรคจิต อ่อนๆได้เลยล่ะค่ะ ไอ้การลดนน.เนี่ยป้ากินน้อยมาก ถ้าหลายคนเห็นจะตกใจ ที่นี้ตอนน้ำหนัก 65 กก.ป้าตั้งใจจะพอแล้ว แต่มันกลับลดลงไปเรื่อยๆค่ะ อันเนื่องมาจากพฤติกรรมการกินของป้าที่ไม่เปลี่ยนไป แถมยังมีอาการทำนองว่า พอกินแล้วไม่ว่าอะไรก็ตาม จะน้อยจะมาก จะต้องบ่นให้ใครที่อยู่ในที่นั้นฟัง ไม่ว่าจะเป็น "โอ๊ยยย กินมากเลยวันนี้ , อ้วนแน่ๆอ่ะ" จนหลายๆคนเริ่มรำคาญ ต่อมาป้าก็เริ่มเกิดอาการสะใจค่ะ เวลาเห็นคนอื่นกินเยอะๆ(อันนี้น่ากัว) เวลาเห็นป้ากินเยอะๆจะรุ้สึกดีใจ แบบ เห้ยยย ป้าก็กินตั้งเยอะ..อ้วนแน่ๆ 55(โรคจิตไปแล้ว) หรือเวลากุ๊กบอกว่าแม่ทำเค้กให้กิน ก็จะแบบสะใจ ฮ่าๆๆ เด๋วมันต้องอ้วนแน่(แม้ปัจจุบันจะอ้วนแล้วก็ตาม 55) แล้วป้าก็กินน้อยลงๆๆๆ และก่อนกินจะคำนวนแคลอรี่อาหารก่อนกิน จำได้หมดค่ะอันนี้กี่แคล อันนี้วันนึงควรกินเท่าไร ...

....พระเจ้า....

ตอนนี้ป้าอยากจะบ้าตายค่ะ... กลับบ้านมาปีใหม่ มีแต่คนทักว่าผอม ผอมมาก ผอมเกินไป หัวโต ฟันเหยิน(อีกแล้ว เกี่ยวตรงไหน) ชิชะ... ป้าก็เริ่มใจไม่ดี เกิดความหวั่นไหวในหัวใจ แล้วที่นี้พ่อ แม่ และครอบครัวก็บังคับให้ป้ากิน ...

อร้ายยยยยยยยย..... ขอเน้นว่าบังคับ


กินตลอดเวลา อร้ายยยยยยยยยยย..........


กินในของที่น่ากัว.อร้ายยยยยยยย.....

ไอศกรีมเอย โมจิเอย แยมโรล หนมปังสังขยา

น่ากัวที่สุด...

.....รู้มั้ยค่ะความโรคจิตของป้า พอมีเวลาเข้าห้องน้ำ(ยังไม่ล้วงคออ้วกค่ะ ยังไม่ขนาดนั้น) ป้ารีบกระโดดตบ ฮ่าๆๆ วิดพื้นกับผนัง พยายามเบิร์นแคลอรี่ให้มากที่สุด ก่อนนอนป้าพยายามซิทอัพ ...โอ๊ยยย อยากจะบ้าตาย

ก่อนนอนก็คิดมาก

วันนี้กินไปกี่แคลอรี่ ......

พอพ่อแม่เผลอรีบตั้งข้าวให้น้อง...........

ป้าอยากจะบ้าตาย....ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว.....

หลานนิวบอกให้ป้าอัพซะบ้าง

ป้าอัพแล้วค่ะ ระบายแล้ว

...สบายใจในอารมณ์............ (จบเอาซะดื้อๆ)




ปล. หลานๆอย่าพึ่งตกใจไป ตอนนี้ป้าทำใจได้แล้วค่ะ กินข้าวตามปกติ (พ่อแม่ให้สติได้ ว่ามันลดเกินไป) ตอนนี้ป้ากินเลี้ยงปีใหม่ทุกวัน ไม่กลัวอ้วนแล้ว(หลานกุ๊ก ป้าหายจากโรคจิตแล้วเด้ออออ)

แต่................

ระวังนะคะ.................มันจะมาโดยไม่รู้ตัว อร้ายยยยยยยยยยยยย
(สนับสนุนโดยเนเจอร์กิฟ)